สรุปหนังสือ 3 เล่ม

  ประเพณีลอยกระทง ประเพณีการลอยกระทงน่าจะเป็นคติของชนชาติที่ประกอบกสิกรรม ซึ่งต้องมีน้ำเป็นปัจจัยสำคัญ เมื่อพืชพันธ์ธัญญาหารเจริญงอกงามอุดมสมบูรณ์ จึงมีการลอยกระทงไปตามกระเเสน้ำ เพื่อขอบคุณพระแม่คงคาหรือเทพเจ้าแห่งน้ำ อีกทั้งเป็นการแสดงความคาราวะขออภัย ที่ได้ลงอาบหรือปล่อยสิ่งปฏิกูลลงน้ำ ไม่ว่าจะโดยตั้งใจหรือไม่ก็ตาม เพื่อขอขมาแก่พระแม่คงคา รักษาขนบธรรมเนียมของไทยไว้ มิให้สูญหายไปตามกาลเวลา และเพื่อรู้ถึงคุณค่าของแม่น้ำลำคลอง อันเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการดำรงชีวิตรวมทั้งเป็นการบูชาเทพเจ้าตลอดจนรอยพระพุทธบาท พระเจดีย์จุฬามณี ฯลฯ ตามคติความเชื่อ นำกระทงไปลอยตามแม่น้ำลำคลอง หรือตามแหล่งน้ำที่มีการจัดพิธี ให้การสนับสนุนกิจกรรมต่างๆ ในวันลอยกระทง เช่น การประกวดกระทง ประกวดนางนพมาศ หลังจากทำพิธีลอยกระทงแล้ว ก็จัดให้มีการละเล่นรื่นเริ่งสนุกสนาน เช่น การละเล่นพื้นเมือง การเล่นเพลงเรือ รำวง ฯลฯ อันเป็นธรรมเนียมประเพณีที่ปฏิบัติสืบทอดกันมาตั้งแต่โบราณ วันสำคัญของเรา

 ชุมชน สังคม และศาสนา ทำให้คนในครอบครัวได้ทำกิจกรรมร่วมกัน (ทำกระทงลอยน้ำแสดงความกตัญญูต่อน้ำ ระลึกถึงบรรพบุรุษ) เกิดความสามัครสมานสามัคคีพบประสังสรรค์ ร่วมน้ำใจกันทำกระทง สืบทอดศิลปกรรมแสดงฝีมือความคิดประดิษฐ์กระทง สนุกสนานรื่นเริงบันเทิงด้วยกันในด้านสัง ทำให้รู้สึกว่ารักษาความสะอาด ลอกขุดคูคลอง เก็บขยะ ไม่ทิ้งสิ่งปฏิกูลลงในแม่น้ำลำคลองในด้านศาสนา ได้มีโอกาสทำบุญให้ทาน สร้างความสงบสุขในจิจใจ ช่วยกันรักษาบำรุงพระพุทธศาสนาให้ยืนยงสืบต่อไปชั่วลูกหลานทางกิจกรรมทางวัฒธรรม ทำความสะอาดบ้านเรือน แม่น้ำลำคลอง ถ้าตื้นเขินก็ทำการขุดลอก จากนั้นมีการทำบุญให้ทาน หังเทศน์ ปฏิบัติธรรม การประดิษฐ์กระทงขนาดต่างๆ นำไปลอยในแม่น้ำ จัดขบวนแห่เล่นสนุก การจุดดอกไม้ไฟ ประทัดพลุ ้ป็นการเฉลิมฉลอง จัดประกวดต่างๆ เช่น การประกวดโคมลอย และนางนพมาส ร่วมด้วยการละเล่นรื่นเริงแบบท้องถิ่นตามอัธยาศัย แต่ควรอยู่ในลักษณะที่เรียบร้อยงดงาม มีวัฒนธรรมที่ดีงาม ขณะเดียวกันควรระมัดระวัง การเล่นสนุกจนเกินขอบเขต คึกคะนองโดยเฉพาะการจุดพลุ ประทัดอาจก่อให้เกิดอันตรายแก่ผู้คน และอาจเกิดเพลิงไหม้อาคารบ้านเรือนได้ การรณรงค์ใช้วัสดุพื้นบ้าน ใบตอง หยวกกล้อย ทำกระทง ไม่พยายามใช้วัสดุย่อยสลายได้ยาก เช่น โพม กระดาษเคลือบโลหะที่จะเป็นมลพิษต่อสิ่งแวดล้อมเกิดอันตรายร้ายแรงต่อสุขภาพ นางนพมาส นางนพมาศหรือท้าวศรีจุฬาลักษณ์


ในหนังสือวรรณคดีไทยเรื่องนางนพมาสนั้นไม่มีตัวตนจริง เพราะเป็นเรื่องที่แต่งขึ้นมาอย่างนิยายถ้านางนพมาสจะมีตัวตนอยู่จริง ก็มีแต่บรรดา เทพีนางนพมาส ที่ชนะการประกวดความงามประจำปีตามเวทีประกวดต่างๆ ทั่วประเทศไทย มีพยานแวดล้อมเป็นหลักฐานหลายประการที่ควรเชื่อได้ว่า พระบาทสมเด็จพระน่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 ทรงมีส่วนพระราชนิพนธ์หนังสือเรื่องนางนพมาส เเละเป็นไปได้มากทีเดียวว่าจะเป็นพระราชนิพนธ์ของพระองค์หมดทั้งเล่ม ไม่มีหลักฐานว่าสมัยสุโขทัยมีประเพณีลอยกระทง และสภาพแวดล้อมทางภูมิศาสตร์รวมทั้งสภาพแวดล้อมทางสังคมและวัฒธรรมของแคว้นสุโขทัยก็มิได้เกื้อกูลให้มีประเพณีลอยกระทง บรรดาสระน้ำหรือคูคลองที่อยู่ในเมืองและนอกเมืองสุโขทัยเขาขุดไว้กักและเก็บน้ำเพื่อกินเพื่อใช้ในชีวิตประจำวันและในยามแล้ง ทั้งมีส่วนเกี่ยวข้องกับการบุญการกุศลในระบบความเชื่อต่างๆด้วย ผู้คนทุกชนชั้นในสมัยแคว้นสุโขทัยมิได้ขุดไว้ลอยกระทง ลอยกระทงมีการพัฒนาการแรกๆเป็น ประเพณีราษฎร์ อยู่กับชาวนาบริเวณที่ราบลุ่ม ต่อภายหลังจึงกลายเป็น ประเพณีหลวง ในราชสำนักลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยาตั้งแต่ก่อนมีกรุงศรีอยุธยา เมื่อแรกเรียกกันในสมัยกรุงศรีอยุธยาอย่างรวมๆ กับประเพณีอื่นๆว่าลดชุดลอยโคมลงน้ำ หรือชักโคมแขวนโคมลอยปโคมพระประทีปลงน้ำ เมื่อถึงปลายกรุงศรีอยุธยาจึงเริ่มเรียกกันอีกอย่างหนึ่งว่า ลอยกระทง



หนังสือ 3 เล่ม

สุจิตต์ วงษ์เทศ. ไม่มีนางนพมาศ ไม่มีลอยกระทง สมัยสุโขทัย. พิมพ์ครั้งที่ 2. กรุงเทพมหานคร :
พิฆเณศ พริ้นท์ติ้ง เซ็นเตอร์, 2539.


ธีญาภัทร์ ฟองไชย์. วันสำคัญของเรา. พิมพ์ครั้งที่ 1. กรุงเทพมหานคร :
สถาพรบุ๊ค, 2547.


ธนกิต. วันสำคัญของไทย. พิมพ์ครั้ง 1. กรุงเทพมหานคร :
ชมรมเด็ก, 2541.



สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์
หนังสือ 3 เล่ม ได้อนุญาตให้ใช้ภายใต้ สัญญาอนุญาตครีเอทีฟคอมมอนส์แบบแสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกัน 4.0 International.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น